ไหลบัวผัดกุ้งสด

หลบัวผัดกุ้งสด ภาษาอังกฤษ เรียก lotus root fried stir with shrimp paste เมนูไหลบัวแบบง่ายๆ วิธีทำไหลบัวผัดกุ้งสด ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรกุ้งสดผัดกะปิ เมนูอาหารพื้นบ้าน เมนูผัด เมนูกุ้ง กุ้งทำอะไรกินได้บ้าง ไหลบัวทำอะไรกินดี ต้องผัดออกมาแล้วจะกรอบๆ กุ้งที่จะออกนิ่มๆ

อาหารไทย เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ผัดพื้นบ้าน เมนูสุขภาพ มีกากใยอาหารสูง รสชาติอร่อยๆ คือ ไหลบัวผัดกุ้งสด เป็น อาหารจากทางปักษ์ใต้ แบบเดียกกับผัดสะตอ เลย จุดเด่นของอาหาร คือ หอมกะปิ ไหลบัวกรอบ กุ้งอร่อยหวาน เคล็ดลับการทำอาหารเมนูนี้ อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรไหลบัวผัดกุ้งสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกุ้ง

ส่วนผสมสำหรับทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• กุ้งแม่น้ำ 8 – 10 ตัว กุ้งตัวโตๆขนาดพอดีคำ
• ไหลบัว 2 เส้น หั่นเป็นท่อนขนาดพอดีคำ
• หอมแดงบดละเอียด 1 หัว
• กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
• กระเทียมสดบดละเอียด 2  กลีบ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• ต้ยหอมหั่นเป็นท่อน 1 ต้น
• พริกชี้ฟ้า ซอยแบบเฉียงๆ 2 เม็ด
• น้ำมันพืช สำหรับผัด 2 ช้อนโต้ะ

วิธีทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• เริ่มจากการเตรียมกุ้งก่อน ล้างให้สะอาด แกะเปลือก ผ่าเส้นที่หลังออก ตัดหัว จากนั้นก็นำพักเอาไว้ก่อน เพื่อเตรีมผัด
• นำหอมแดง และ กระเทียม มาโขรกให้ละเอียดพร้อมด้วยกะปิ ให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
• เริ่มการผัด โดยจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่กะปิที่โขรกไว้แล้วนำมาผัดให้หอมสุก
• จากนั้นใส่เนื้อกุ้งลงไปผัด และ ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
• ใส่ไหลบัว ต้นหอม และ พริกชี้ฟ้าลงไปผัด ปิดไฟ
• เสริฟใส่จานพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• กุ้ง ใช้ กุ้งแชบ๋วย สดๆ ตัวใหญ่ๆ โดยวิธีการเลือกกุ้ง ให้ดูลักษณะของกุ้งที่สมบูรณ์ เปลือกไม่ออกจากตัวกุ้ง เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
• การผัดเนื้อกุ้ง ให้อร่อยนั้น ไม่ห้ผัดเนื้อกุ้งนานเกินไป เนื่องจาก เนื้อกุ้งที่สุกเกินไป จะทำให้เนื้อกุ้งแข็งไม่น่ารับประทาน
• กะปิ ให้เลือกใช้กะปิอย่างดี เนื่องจากกะปิอย่างดีทำจากเคยชั้นดี รสชาติอร่อยน่ารับประทาน
• การผัดกะปิ นั้นต้องผัดให้กะปิส่งกลิ่นหอม จึงจะทำให้รสชาติของกะปิไม่คาว
• ความร้อนที่ใช้ในการผัด ให้ใช้ไฟปานกลาง ไม่แรงหรืออ่อนเกินไป
• ขั้นตอนแรกให้เจียวกระเทียมก่อน ความหอมของกระเทียมที่ติดไปกับน้ำมัน จะทำให้ผัดมีความหอมน่ารับประทาน
• การปรุงรสด้วยน้ำปลา นั้นให้ชิมรสชาติก่อน หากความเค็มได้ที่ก็ไม่ต้องใส่น้ำปลาเพิ่ม
• น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหอมและหวานของน้ำตาลปี๊บ จะทำให้อาหารมีความกลมกล่อม

อาหารพื้นบ้านอย่าง ผัดไหลบัว กับ กุ้งสด เป็นอาหารง่ายๆที่มีวัตถุดิบหาง่าย เหมาะ

สลัดผักหมูย่าง

สลัดผักหมูย่าง ( grill pork salad ) วิธีทำสลัดผักหมูย่าง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูหมูย่าง กินไม่อ้วน สำหรับลดน้ำหนัก ผักสดๆ กัย เนื้อหมูอร่อยๆ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่หมูย่างที่อร่อย ทานกับผักสดๆ

อาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารสุขภาพ เอาใจคนรักสุขภาพ คือ สลัดผักหมูย่าง เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การหมักหมู และ การเลือกผักสดๆ สูตรสลัดผักหมูย่าง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูลดความอ้วน

ส่วนผสมสำหรับทำสลัดผักหมูย่าง

• เนื้อหมูสันใน หั้นเป็นแผ่นหนา 1 เซ็นติเมตร 200 กรัม
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
• ซอสน้้ำมันหอย 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ต้น
• กระเทียมบด 2 กลีบ
• ผักกาดหอม 5-6 ใบ
• ต้นหอม 2-3 ต้น
• ผักชี 1 ต้น
• พริกชี้ฟ้า 2-3 เม็ด
• น้ำจิ้มปอเปี๊ยะเวียดนาม สำหรับทานกับสลัดผัก

วิธีทำสลัดผักหมูย่าง

1. เริ่มจากการหมักหมู ด้วย รากผักชีบด กระเทียม พริกไทยป่น ซอสปรุงรส ซอสน้ำมันหอย น้ำตาลทราย และ ตะไคร้ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน และ หมักทิ้งไว้ 45 นาที
2. ตั้งเตาย่าง ไฟปานกลาง นำหมูลงไปย่างบนตะแกรงย่าง กลับด้านทุก 2 นาที ย่างประมาณ 15 นาที หรือ หากสังเกตุว่าหมูสุกแล้วก็ถือว่าได้ที่
3. หั่นหมูย่างให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
4. นำต้นหอมมาลวกน้ำร้อนจากนั้น ตัดใบหอมออก เพื่อจะนำใบหอมมาพันผักสลัด
5. นำผักกาดหอมมาห่อหมูย่าง ผักกาดหอม 1 ใบ ต่อหมูย่าง 1-2 ชิ้น ตามชอบ วางพริกชี้ฟ้าหั่นเป็นเส้น และ ผักชีด้านบน นำใบต้นหอมลวกพันผักกาดหอมให้เป็นชิ้นไม่หลุดจากกัน ทำจนหมูหมด หรือ ตามจำนวนที่พอใจ
6. เสริฟ สลักผักหมูย่าง ทานคู่กับน้ำจิ้มปิเปี๊ยะเวียดนาม

เคล็ดลับการทำสลัดผักหมูย่าง

• ผักให้เลือกใช้ผักที่สดๆ โดยเฉพาะผักกาดหอม เป็น พระเอกของเมนูนี้ ให้เลือกใช้ผักกาดแก้ว สีเขียวสดใส น่ารับประทาน เมื่อได้ผักมาแล้วให้ล้างให้สะอาดและนำไปแช่เย็นก่อนนำมาห่อหมูย่าง
• เนื้อหมูสำหรับนำมาทำหมูย่าง ให้เลือกใช้ เนื้อหมูสันใน เป็นเนื้ิอหมูส่วนที่นุ่ม และ ไขมันน้อยเหมาะสำหรับทำหมูย่าง
• การย่างหมู สำคัญที่ไฟ ต้องพอดี และ ย่างในเวลาที่เหมาะสม ไฟต้องเป็นไฟปานกลาง ย่างประมาณ 15 นาที เนื้อหมูจะสุก และ นุ่ม มีน้ำซอสในเนื้อหมู เนื้อหมูจะไม่แห้งเกินไป หอมเครื่องหมักอร่อย
• หมูย่าง ให้พักให้เย็นก่อน จึงค่อยนำมาใช้ผักห่อ หากห่อในขระที่หมูย่างยังร้อนอยู่ ผักจะเฉาไม่สวยงาม และ ไม่กรอบ

ทำผัดยอดฟักแม้ว

 ภาษาอังกฤษ เรียก Chayote leaves in Oyster sauce วิธีทำผัดยอดฟักแม้ว ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นเมนูผัดง่ายๆจากยอดอ่อนมะระ เรียกอีกอย่างว่า ผัดยอดมะระ มีลักษณะคล้ายผัดคะน้าหรือผัดผักบุ้งไฟแดง ฟักแม้วเป็นชื่อเรียกทางเหนือ หมายถึง มะระ อาหารพื้นบ้าน ฟักแม้วผัด ยอดมะระผัด

สูตรอาหารไทย เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารพื้นเมืองเหนือ จากยอดมะระ คือ ผัดยอดฟักแม้ว หรือ ยอดฟักแม้วผัด ยอดอ่อนมะระ มีประโยชน์สูง มีเคลเซี่ยม เหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ ข้าวต้มร้อนๆ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูยอดมะระผัด คือ เทคนิคการเลือกวัตถุดิบหลักคุณภาพ การเตรียมอาหาร เทคนิคการผัดและ การปรุงรสชาติ ผัดยอดมะระ ที่อร่อยต้องผักกรอบ น้ำผัดรสชาติกลมกล่อม ส่วนประกอบในจานรสชาติพอดี สูตรผัดยอดฟักแม้ว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

ส่วนผสมสำหรับทำผัดยอดฟักแม้ว

• ยอดมะระอ่อน 1 จาน เด็ดให้มีขนาดพอดีไม่ยาวหรือสั้นเกินไป
• กระเทียม 1 ช้อนชา (บดละเอียด)
• กระเทียมบุบ 3-4 กลีบ
• พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด (โขรกพอบุบ)
• เต้าเจี้ยวบด 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำซุปกระดูก 3 ช้อนโต้ะ
• น้ำมันพืช สำหรับผัด 1 ช้อนชา

วิธีทำผัดยอดฟักแม้ว

1. เนื่องจากยอดมะระ เมื่อโดนความร้อนจะเฉาง่าย หากผัดนานเกินไปจะเละ ไม่น่ารับประทาน โดยให้เตรียมเครื่องสำหรับผัดทั้งหมดใส่จานพร้อมกันเลย
2. นำจานเตรียมอาหาร ใส่ยอดมะระ พริก กระเทียม เต้าเจี้ยว น้ำปลา น้ำตาล และ ซอสน้ำมันหอยใส่ลงไปในจาน
3. ตั้งกระทะน้ำมัน รอให้กระทะร้อนจัด เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปผัด เติมน้ำซุปกระดูกลงไปหน่อย ให้มีน้ำซอส
4. ผัดสักครู่ให้ผัดเริ่มเปลี่ยนสีก็นำขึ้นมาเสริฟใส่จานพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำผัดยอดฟักแม้ว

• การเลือกยอดฟักแม้ว หรือ ยอดมะระ ให้เลือกยอดอ่อน เนื่องจากยอดอ่อนจะเป็นส่วนที่นำมาทำอาหารได้อร่อยที่สุด ให้เด็ดยอด และ ล้างให้สะอาด ก่อนนำมาทำ
• กระเทียมสำหรับใช้ผัดเมนูนี้ให้เลือกใช้ กระเทียมไทย กลิ่นที่หอมกว่ากระเทีนมจีน เวลาโดนความร้อนจะทำให้รสหวานอร่อย คือ คุณสมบัติเด่นของกระเทียมไทย
• พริกให้เลือกใช้ พริกขี้หนูสวน เพื่อให้ได้รสชาติและความเผ็ดจัดจ้านถูกใจคนชอบรสเผ็ดๆ
• เต้าเจี้ยว สำหรับเต้าเจี้ยวนี้ต้องใช้เต้าเจี้ยวบดอย่างดี สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดเก่าเยาวราช หากเพื่อนๆได้ลองใช้เต้าเจี้ยวบดอย่างดีแล้วจะทำให้ได้สัมผัดของซอสที่มีรสชาติแตกต่างจากทั่วไป เทคนิคสำคัญของการเตรียมเต้าเจี้ยว คือ การปรุงรสเต้าเจี้ยวก่อนนำมาใช้ปรุงอาหาร ซึ่งเราจะมานำเสนอ สูตรเต้าเจี้ยวปรุงรสให้เพื่อนๆอีกครั้งในบทความต่อไป
• ยอดมะระ มีลักษณะ เหมือนกับ ผัดบุ้ง คือ เหี่ยวเฉาง่าย การผัดต้องใช้ไฟที่แรง และ ผัดไม่ต้องใช้เวลานาน จะได้ผักที่ยังคงความกรอบอร่อยอยู่
• ไฟที่ใช้ในการผัด ให้ใช้ไปแรง ให้ผัดแบบสะตุ้งไป เพื่อให้คงความกรอบของผัก จึงจะได้รสชาติที่ดี
• สำหรับน้ำมันที่ใช้ในการผัด หากต้องการให้หอมมากขึ้น สามารถใส่กระเทียมลงไปผัดก่อนได้ ให้น้ำมันหอมระเหยของกระเทียมให้ความหอมของอาหารอย่างเต็มที่
• สูตรนี้เป็นสูตรเดียวกับ ผัดคะน้า หรือ ผัดผักบุ้งไฟแดง ซึ่งเปลี่ยนวัตถุดิบหลักเป็นยอดมะระ ดังนั้น ท่านสามารถนำสูตรนัี้ไปใช้เป็นสูตรผัดผักคะน้าได้ หรือ ผัดผักบุ้งไฟแดงก็ได้

กระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

 ภาษาอังกฤษ เรียก pork soup with black pepper วิธีทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นอาหารเบาๆ เมนูหมูตุ๋น นำกระเพาะหมูนุ่มๆมาตุ๋นในน้ำซุปโดยให้กลิ่นของพริกไทยดำเป็นหลัก เมนูสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เคล็ดลับการเตรียมเครื่องในหมู กระเพาะหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูซุปกระเพราะหมู อร่อยๆ เมนูสุขภาพ คือ กระเพราะหมูตุ๋นพริกไทยดำ เคล็ดลับการทำอาหารเมนูนี้ อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร ให้กระเพาะหมูไม่คาว เทคนิคการตุ๋น และ การปรุงรสชาติ  สูตรกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

• เห็ดหอมแห้ง 4 – 5 ดอก โดยแช่น้ำให้นุ่มและหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• กระเพราะหมู 1 ก้อนประมาณ 2 ขีด
• พริกไทยดำ 3 ช้อนโต้ะ
• ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต้ะ
• คื่นฉ่าย 2 ต้น
• ไข่นกกระทา 4-5 ฟอง
• ผักชี สำหรับโรยหน้า
• น้ำซุป 4 ถ้วย

วิธีทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

1. เริ่มต้นจากการเตรียมกระเพาะหมูก่อน โดยล้างกระเพาะหมู ให้สะอาด โดยกลับเอาด้านในออก ตั้งกระทะให้ร้อน เอากระเพาะหมูลงไปนาบให้ทั่ว และขูดผิวโดยรอบแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำ พริกไทยดำ ใส่เข้าไปในกระเพาะหมู และมัดให้แน่นด้วยด้าย ผูกไว้เป็นก้อนๆ เพื่อไม่ให้พริกไทยไหลออกกระเพาะหมู การทำเช่นนี้จะทำให้พริกไทยดำให้รสชาติของกระเพาะหมูที่ถึงเครื่อง
2. จากนั้นเตรียมหม้อตุ๋น โดยให้ใส่ กระเพาะหมู น้ำซุป ซอสปรุงรส และต้มประมาณ 1 ชั่วโมง ต้มจนกระเพาะหมูเปื่อย สังเกตุโดยให้สัมผัสผิวของหมูดู
3. เมื่อกระเพาหมูเริ่มได้ที่ ให้เอากระเพาหมูออก และ นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นใส่กลับลงไปหม้อตุ๋น ใส่เห็ดหอมลงไปต้ม
4. เสริฟกระเพาะหมูตู๋น โรยหน้าด้วย ผักชี คื่นฉ่าย และ ไข่นกกระทาต้ม ทานกับข้าวสวยร้อนๆแสนอร่อย

เคล็ดลับการทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

• สำหรับกระเพาะหมู การเตรียมกระเพาะหมู ให้ล้างให้สะอาด โดยเทคนิคสำคัญของการทำเมนูเครื่องในอย่างกระเพาะหมู คือ การล้างต้องล้างให้สะอาด ต้องล้างให้สะอาดโดยใช้สารส้มขัดให้กระเพาะหมูสะอาด ล้างจนกระเพาะหมูไม่มีคราบไขมัน ให้นำไปต้มให้สุก และ นำไปขูดให้มันออก เวลานำมาทำจะไม่คาว
• เทคนิคการตุ๋นพริกไทยดำ ให้ใช้พริกไทยดำ การนำพริกไทยดำมาตุ๋น ให้นำเม็ดพริกไทยแช่น้ำก่อน ตัดเอาเม็ดที่ลอยออก เนื่องจากเม็ดที่ลอยจะทำให้มีกลิ่นหืน
• การตุ๋นกระเพาะหมู ให้นำเม็ดพริกไทยยัดไส้ในและด้ายมัดให้แน่น ความหอมของพริกไทยดำจะช่วยดับคาวของกระเพาะหมู
• น้ำซุป สำหรับนำมาตุ๋นต้อง ใช้น้ำซุปกระดูกหมู จะทำให้น้ำซุปหอมกลมกล่อม
• เห็ดหอมแห้ง ให้นำไปแช่น้ำให้อิ่มน้ำก่อน จากนั้นล้างให้สะอาด ก่อนนำมาหั่น

วิธีทำกระเพาะหมูพริกไทยดำ อาหารเมนูหมู พริกไทยดำทำอะไรกินดี อาหารสุขภาพ กระเพาะหมูทำอะไรกินได้บ้าง อาหารบำรุงสุขภาพ กับข้าวง่ายๆ พริกไทยดำ สรรพคุณของพริกไทยดำ คือ ช่วยขัยของเสียออกจากร่ายกาย บำรุงเลือด ช่วยให้เลือดลมดี สำหรับเมนูเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ

น้ำพริกหนุ่ม

คือ น้ำพริกภาคเหนือ มีลักษณะข้น เป็นอาหารพื้นบ้านของล้านนา เป็นน้ำพริกยอดนิยม เป็นของฝากของภาคเหนือกินคู่กับแคบหมู บางสูตรใส่ ปลาร้า และ กะปิ บางสูตรใส่ น้ำปลา กับ เกลือ วิธีทำน้ำพริกหนุ่มง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ อาหารไทย อาหารพื้นเมือง สูตรน้ำพริกนิยมของภาคเหนือ อาหารขันโตก

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ขอนำเสนอ เมนูขันโตก คือ น้ำพริกหนุ่ม เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรน้ำพริกหนุ่ม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกหนุ่ม

• พริกหนุ่ม 10-15 เม็ด
• กระเทียม 5-6 กลีบ
• หอมหัวแดง 6 ลูก
• กะปิ 1 ช้อนชา
• เกลือ 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• ผักสด สำหรับทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี ข้าวโพดอ่อน กระเจี๊ยบเขียวถั่วฝักยาว เป็นต้น
• แคบหมู ปริมาณตามต้องการ

วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม

1. เริ่มจากการนำ พริกหนุ่ม กระเทียม และ หอมหัวแดง ย่างหรือคั่วให้สุก จากนั้นนำพริกหนุ่มมาลอกเปลือกออก และ พักส่วนผสมทั้งหมดไว้ก่อน
2. นำกะปิห่อใบตอง และนำไปย่าง ให้หอมสุก จากนั้นนำมาพักเอาไว้ก่อน
3. เตรียมครกสำหรับโขรกน้ำพริก ใส่ พริกหนุ่ม กะปิ กระเทียม และ หอมแดง ลงไปโขรกให้ส่วนผสมทั้งหมเให้ละเอียด
4. จากนั้นปรุงรสด้วย เกลือ และ น้ำปลา
5. เสริฟ น้ำพริกหนุ่มใส่ถ้วยน้ำจอิ้ม เสริฟพร้อมกับเครื่องเคียงผักสด และ แค็บหมู

เคล็ดลับการทำน้ำพริกหนุ่ม

• สำหรับส่วนผสมของกะปิ ให้นำไปห่อใบตอง และ นำไปย่างให้สุกและหอมก่อน จะทำให้กะปิรสชาติดีขึ้น พร้อมกับให้กลิ่นที่ดีของกะปิ
• ส่วนผสมสำหรับกะปิ ในสูตรน้ำพริกหนุ่ม บางสูตรใช้ ปลาร้า หรือ ถั่วเน่า แทนกะปิ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบของช่วงเวลานั้นๆ
• พริกหนุ่มให้นำไปย่างก่อน เมื่อย่างพริกหนุ่มแล้ว ผิวพริกหนุ่มจะมีความไหม้นิดหน่อย จะให้กลิ่นที่หอม และ รสหวาน
• หอมแดง ให้นำไปคั่วหรือย่างให้สุกก่อน หอมแดงเมื่อโดนความร้อน จะให้รสหวานอร่อย พร้อมด้วยลดกลิ่นเหม็นเขียวของหอมแดงได้
• กระเทียม ให้นำไปย่างหรือคั่วก่อน เมื่อกระเทียมโดนความร้อนจะให้รสหวาน รวมทั้งลดกลิ่นของกระเทียมลงได้

วิธีทำน้ำพริกแบบภาคเหนือ น้ำพริกเมืองเหนือทำอย่างไร อาหารขันโตก น้ำพริกอร่อย ของชาวเหนือ สูตรน้ำพริกภาคเหนือ น้ำพริกหนุ่มทานกับแค็บหมูและผักเคียง อาหารสุขภาพ กินแล้วไม่อ้วน วันนี้ขอนำเสนอ สูตรน้ำพริก ของดีเมืองเหนือ หากใครไปเมืองเหนือไม่ได้ทาน ถือว่าไปไม่ถึง น้ำพริกหนึ่มนิยมทานคู่กับแคปหมู ส่วนผสมและวิธีทำ เขาทำกันอย่างไร

เป็ดตุ๋นพะดล้ยอดผัก

ป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก เมนูเป็ดตุ๋นพะโล้ พร้อมกับซอสเหนียวๆและยอดผัดคะน้ากรอบๆ วิธีทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อยของ เมนูเป็ด คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ วิธีปรุงรสชาติ เป็ดที่เหมาะสำหรับนำมาทำเป็ดตุ๋น

อาหารยอดนิยม สูตรอาหาร เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูตุ๋นจากเป็ด คือ เป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก หรือ เป็ดอบซีอิ้วยอดผัก อาหารที่ขาดไม่ได้สำหรับเมนูโต้ะจีน เนื้อเป็ดต้องนุ่ม ไม่เหม็นสาบ น้ำซอสรสกลมกล่อม เคล็ดลับการทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ สูตรเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูเป็ด

ส่วนผสมสำหรับทำเป็ดตุ๋นพะดล้ยอดผัก

• เป็ดเชอร์รี่ 1 ตัว

• ยอดผักคะน้า 4-5 ต้น
• ซอสดำ 5 ช้อนโต้ะ (สำหรับหมักเป็ด)
• ซอสปรุงรส 5 ช้อนโต้ะ
• ซอสน้ำมันหอย 5 ช้อนโต้ะ
• ซอสดำ 5 ช้อนโต้ะ สำหรับปรุงรสพะโล้
• รากผักชี 4-5 ต้น
• กระเทียม 10-20 กลีบ
• พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต้ะ
• พริกไทยป่น 2 ช้อนโต้ะ
• โปยกั๊ก 1 ช้อนโต้ะ
• อบเชย 2 ท่อน
• แป้งมันผสมน้ำ 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำเปล่า 10 ลิตร
• น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก

1. ล้างเป็ดให้สะอาด เอาเครื่องในออกให้หมดจากนั้น นำมาหมักด้วยซอสดำ หมักทิ้งไว้ 5 นาที
2. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นนำเป็ดลงไปทอด ให้หนังเป็ดตึง จากนั้นนำเป็ดออกมาพักไว้ก่อน
3. ตั้งหม้อต้ม จากนั้น ใส่ โปยกั๊ก อบเชย รากผักชี พริกไทยและกระเทียม ต้มให้เครื่องเทศหอม
4. จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลกรวด ซอสดำ ซอสปรุงรส ซอสน้ำมันหอย และ พริกไทยป่น ต้มให้ส่วนผสมเข้ากัน
5. จากนั้นนำเป็ดลงไปตุ๋น ใช้เวลาตุ๋น 4-6 ชั่วโมง
6. เตรียมซอสโดย นำน้ำจากการตุ๋นเป็ดลงไปผัดให้เดือด จากนั้นใส่แป้งมันผสมน้ำลงไปผัด ให้เหนียวก็พักเอาไว้ก่อน
7. นำยอดผักคะน้าลงไปผัดในกระทะน้ำมัน ให้สีเขียวมันเงา
8. นำเป็ดตุ่นจัดใส่จาน จัดหน้าด้วยยอดผักคะน้าผัด และ ราดด้วยน้ำซอสเหนียวๆ เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก

• เป็ดให้เลือกเป็ดตัวผู้ อายุ 4-5 เดือน เป็นเป็ดอ่อน จะมีเนื้ิอนุ่มและความเหม็นสาบของเป็ดตัวผู้น้อยกว่าเป็ดตัวเมีย
• การผัดซอสให้ใช้ไฟแรง และผัดแป้งเร็วๆ เพื่อไม่ให้ซอสเป็นก้อนแป้ง
• การตุ๋นเป็ด ต้องใช้ไฟแรง เวลาตุ๋น 4-6 ชั่วโมง จึงจะได้เป็ดที่เนื้อนุ่ม อร่อยที่สุด
• การทอดเป็ดให้หนังเป็ดตึงก่อน จะทำให้หนังเป็ดไม่เละเวลานำมาตุ๋น เทคนิคนี้ใช้เทคนิคเดียวกันกับการทำขาหมูพะโล้ จะได้หนังเหนียวนุ่มอร่อย
• สำหรับซอสดำ สามารถใช้น้ำตาลคั่วให้เป็นสีน้ำตาลแทนได้ จะได้รสชาติที่อร่อยแบบธรรมชาติด้วย
• ผักคะน้า ให้เลือกยอดอ่อน นำมาผัดในกระร้อนๆ จะได้ผักที่กรอบอร่อบ ความหวานของผักคะน้าไม่หายไป

หมูโสร่ง

 ภาษาอังกฤษ เรียก Fried pork ball with noodle วิธีทำหมูโสร่ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ จัดเป็นอาหารไทย โบราณ รสชาติอร่อย เป็นทั้งอาหารว่างและอาหารหลักได้ เคล็ดลับการทำหมูโสร่งง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับ คนรักการทำอาหาร เมนูหมู

สูตรอาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารไทยโบราณ เมนูทอด ชื่อ หมูโสร่ง ลักษณะเหมือนลูกชิ้นทอด ใช้หมูหมักปั้นเป็นลูกกลมๆ ห่อและพันด้วยเส้นบะหมี่ให้รอบๆ และ ทอด ให้เส้นกรอบ เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อนนุ่ม จิ้มด้วยน้ำจิ้มไก่ หรือ น้ำจิ้มอาจาดแสนอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของหมูโสร่ง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การปรุงรสชาติ และ เทคนิคการทอด สูตรหมูโสร่ง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำหมูโสร่ง

• หมูบะช่อ 2 ขีด
• หมูสับ 1 ขีด
• มันหมูบด 1 ขีด
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• เส้นบะหมี่ 2 ก้อน
• รากผักชี  2 ราก
• กระเทียม 4 กลีบ
• พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต้ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำจิ้มอาจาด
• แตงกวา 1 ลูกหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• พริกหนุ่มซอย 3 เม็ด
• หอมแดงซอย 1 ลูก
• ถั่วลิงสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำจิ้มไก่
• น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำหมูโสร่ง

1. เตรียมครก นำ รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย โขรกให้ละเอียด
2. เริ่มหมักหมู โดย นำ หมูบะช่อ หมูสับ และ มันหมูบด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อหมู 1 ฟองนวดผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็น ให้เนื้อหมูเซ็ตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
4. จากนั้นนำเนื้อหมูมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ และใช้เส้นบะหมี่มาพันให้รอบๆ ให้เป็นก้อน ทำจนหมดหรือตามที่ต้องการ
5. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ลดไฟลงให้ได้ขนาดไฟอ่อน จากนั้นนำหมูโสร่งลงไปทอด ใช้ไปอ่อน ทอดปเรื่อยๆจนหมูสุกและบะหมี่กรอบพอดี
6. นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จักใส่จาน ทานกับน้ำจิ้มอาจาด แตงกวา พริก และถั่วลิสงค์ หรือ น้ำจิ้มไก่

เคล็ดลับการทำหมูโสร่ง

• ไข่ไก่ จะเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อน เวลานำมาทอดไม่แตกตัว
• น้ำมัน ต้องเลืิอกใช้น้ำมันใหม่ ใช้น้ำมันร้อน ไฟอ่อน ค่อยๆทอด ให้หมูและเส้นบะหมี่สุกพร้อมกัน ได้เนื้อหมูนุ่มเส้นบะหมี่กรอบอร่อย
• เนื้อหมูต้องผสมกัน ระหว่างหมูสับและมันหมู เพื่มความเนียนของเนื้อหมูด้วยการใช้หมูบะช่อด้วย จะได้เนื้อหมูที่นุ่มเด่งอร่อย
• เนื้อหมู ต้องเลือกใช้หมูสดๆ จะได้อาหารรสชาติที่อร่อยที่สุด
• เพื่อป้องกันปัญหาการทอดหมูไม่สุก สามารถนำหมูมาปั้นเป็นก้อนและนึ่งให้สุกก่อน จึงนำมาพันเส้นบะหมี่ก็จะได้เส้นบะหมี่ที่กรอบง่ายกว่า การที่ทอดหมูดิบๆ
• การทอดเพื่อไม่ให้หมูโสร่งอมน้ำมัน ต้องทอดขณะที่น้ำมันร้อน หากทอดขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจะทำให้หมูอมน้ำมันไม่น่ารับประทาน