ไหลบัวผัดกุ้งสด

หลบัวผัดกุ้งสด ภาษาอังกฤษ เรียก lotus root fried stir with shrimp paste เมนูไหลบัวแบบง่ายๆ วิธีทำไหลบัวผัดกุ้งสด ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรกุ้งสดผัดกะปิ เมนูอาหารพื้นบ้าน เมนูผัด เมนูกุ้ง กุ้งทำอะไรกินได้บ้าง ไหลบัวทำอะไรกินดี ต้องผัดออกมาแล้วจะกรอบๆ กุ้งที่จะออกนิ่มๆ

อาหารไทย เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ผัดพื้นบ้าน เมนูสุขภาพ มีกากใยอาหารสูง รสชาติอร่อยๆ คือ ไหลบัวผัดกุ้งสด เป็น อาหารจากทางปักษ์ใต้ แบบเดียกกับผัดสะตอ เลย จุดเด่นของอาหาร คือ หอมกะปิ ไหลบัวกรอบ กุ้งอร่อยหวาน เคล็ดลับการทำอาหารเมนูนี้ อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรไหลบัวผัดกุ้งสด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูกุ้ง

ส่วนผสมสำหรับทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• กุ้งแม่น้ำ 8 – 10 ตัว กุ้งตัวโตๆขนาดพอดีคำ
• ไหลบัว 2 เส้น หั่นเป็นท่อนขนาดพอดีคำ
• หอมแดงบดละเอียด 1 หัว
• กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
• กระเทียมสดบดละเอียด 2  กลีบ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• ต้ยหอมหั่นเป็นท่อน 1 ต้น
• พริกชี้ฟ้า ซอยแบบเฉียงๆ 2 เม็ด
• น้ำมันพืช สำหรับผัด 2 ช้อนโต้ะ

วิธีทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• เริ่มจากการเตรียมกุ้งก่อน ล้างให้สะอาด แกะเปลือก ผ่าเส้นที่หลังออก ตัดหัว จากนั้นก็นำพักเอาไว้ก่อน เพื่อเตรีมผัด
• นำหอมแดง และ กระเทียม มาโขรกให้ละเอียดพร้อมด้วยกะปิ ให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
• เริ่มการผัด โดยจากตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นใส่กะปิที่โขรกไว้แล้วนำมาผัดให้หอมสุก
• จากนั้นใส่เนื้อกุ้งลงไปผัด และ ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา
• ใส่ไหลบัว ต้นหอม และ พริกชี้ฟ้าลงไปผัด ปิดไฟ
• เสริฟใส่จานพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำไหลบัวผัดกุ้งสด

• กุ้ง ใช้ กุ้งแชบ๋วย สดๆ ตัวใหญ่ๆ โดยวิธีการเลือกกุ้ง ให้ดูลักษณะของกุ้งที่สมบูรณ์ เปลือกไม่ออกจากตัวกุ้ง เนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
• การผัดเนื้อกุ้ง ให้อร่อยนั้น ไม่ห้ผัดเนื้อกุ้งนานเกินไป เนื่องจาก เนื้อกุ้งที่สุกเกินไป จะทำให้เนื้อกุ้งแข็งไม่น่ารับประทาน
• กะปิ ให้เลือกใช้กะปิอย่างดี เนื่องจากกะปิอย่างดีทำจากเคยชั้นดี รสชาติอร่อยน่ารับประทาน
• การผัดกะปิ นั้นต้องผัดให้กะปิส่งกลิ่นหอม จึงจะทำให้รสชาติของกะปิไม่คาว
• ความร้อนที่ใช้ในการผัด ให้ใช้ไฟปานกลาง ไม่แรงหรืออ่อนเกินไป
• ขั้นตอนแรกให้เจียวกระเทียมก่อน ความหอมของกระเทียมที่ติดไปกับน้ำมัน จะทำให้ผัดมีความหอมน่ารับประทาน
• การปรุงรสด้วยน้ำปลา นั้นให้ชิมรสชาติก่อน หากความเค็มได้ที่ก็ไม่ต้องใส่น้ำปลาเพิ่ม
• น้ำตาล ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหอมและหวานของน้ำตาลปี๊บ จะทำให้อาหารมีความกลมกล่อม

อาหารพื้นบ้านอย่าง ผัดไหลบัว กับ กุ้งสด เป็นอาหารง่ายๆที่มีวัตถุดิบหาง่าย เหมาะ

สลัดผักหมูย่าง

สลัดผักหมูย่าง ( grill pork salad ) วิธีทำสลัดผักหมูย่าง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูหมูย่าง กินไม่อ้วน สำหรับลดน้ำหนัก ผักสดๆ กัย เนื้อหมูอร่อยๆ เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่หมูย่างที่อร่อย ทานกับผักสดๆ

อาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารสุขภาพ เอาใจคนรักสุขภาพ คือ สลัดผักหมูย่าง เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การหมักหมู และ การเลือกผักสดๆ สูตรสลัดผักหมูย่าง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูลดความอ้วน

ส่วนผสมสำหรับทำสลัดผักหมูย่าง

• เนื้อหมูสันใน หั้นเป็นแผ่นหนา 1 เซ็นติเมตร 200 กรัม
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
• ซอสน้้ำมันหอย 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ตะไคร้ซอย 1 ต้น
• กระเทียมบด 2 กลีบ
• ผักกาดหอม 5-6 ใบ
• ต้นหอม 2-3 ต้น
• ผักชี 1 ต้น
• พริกชี้ฟ้า 2-3 เม็ด
• น้ำจิ้มปอเปี๊ยะเวียดนาม สำหรับทานกับสลัดผัก

วิธีทำสลัดผักหมูย่าง

1. เริ่มจากการหมักหมู ด้วย รากผักชีบด กระเทียม พริกไทยป่น ซอสปรุงรส ซอสน้ำมันหอย น้ำตาลทราย และ ตะไคร้ ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน และ หมักทิ้งไว้ 45 นาที
2. ตั้งเตาย่าง ไฟปานกลาง นำหมูลงไปย่างบนตะแกรงย่าง กลับด้านทุก 2 นาที ย่างประมาณ 15 นาที หรือ หากสังเกตุว่าหมูสุกแล้วก็ถือว่าได้ที่
3. หั่นหมูย่างให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
4. นำต้นหอมมาลวกน้ำร้อนจากนั้น ตัดใบหอมออก เพื่อจะนำใบหอมมาพันผักสลัด
5. นำผักกาดหอมมาห่อหมูย่าง ผักกาดหอม 1 ใบ ต่อหมูย่าง 1-2 ชิ้น ตามชอบ วางพริกชี้ฟ้าหั่นเป็นเส้น และ ผักชีด้านบน นำใบต้นหอมลวกพันผักกาดหอมให้เป็นชิ้นไม่หลุดจากกัน ทำจนหมูหมด หรือ ตามจำนวนที่พอใจ
6. เสริฟ สลักผักหมูย่าง ทานคู่กับน้ำจิ้มปิเปี๊ยะเวียดนาม

เคล็ดลับการทำสลัดผักหมูย่าง

• ผักให้เลือกใช้ผักที่สดๆ โดยเฉพาะผักกาดหอม เป็น พระเอกของเมนูนี้ ให้เลือกใช้ผักกาดแก้ว สีเขียวสดใส น่ารับประทาน เมื่อได้ผักมาแล้วให้ล้างให้สะอาดและนำไปแช่เย็นก่อนนำมาห่อหมูย่าง
• เนื้อหมูสำหรับนำมาทำหมูย่าง ให้เลือกใช้ เนื้อหมูสันใน เป็นเนื้ิอหมูส่วนที่นุ่ม และ ไขมันน้อยเหมาะสำหรับทำหมูย่าง
• การย่างหมู สำคัญที่ไฟ ต้องพอดี และ ย่างในเวลาที่เหมาะสม ไฟต้องเป็นไฟปานกลาง ย่างประมาณ 15 นาที เนื้อหมูจะสุก และ นุ่ม มีน้ำซอสในเนื้อหมู เนื้อหมูจะไม่แห้งเกินไป หอมเครื่องหมักอร่อย
• หมูย่าง ให้พักให้เย็นก่อน จึงค่อยนำมาใช้ผักห่อ หากห่อในขระที่หมูย่างยังร้อนอยู่ ผักจะเฉาไม่สวยงาม และ ไม่กรอบ

ทำผัดยอดฟักแม้ว

 ภาษาอังกฤษ เรียก Chayote leaves in Oyster sauce วิธีทำผัดยอดฟักแม้ว ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นเมนูผัดง่ายๆจากยอดอ่อนมะระ เรียกอีกอย่างว่า ผัดยอดมะระ มีลักษณะคล้ายผัดคะน้าหรือผัดผักบุ้งไฟแดง ฟักแม้วเป็นชื่อเรียกทางเหนือ หมายถึง มะระ อาหารพื้นบ้าน ฟักแม้วผัด ยอดมะระผัด

สูตรอาหารไทย เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารพื้นเมืองเหนือ จากยอดมะระ คือ ผัดยอดฟักแม้ว หรือ ยอดฟักแม้วผัด ยอดอ่อนมะระ มีประโยชน์สูง มีเคลเซี่ยม เหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ ข้าวต้มร้อนๆ เคล็ดลับความอร่อยของเมนูยอดมะระผัด คือ เทคนิคการเลือกวัตถุดิบหลักคุณภาพ การเตรียมอาหาร เทคนิคการผัดและ การปรุงรสชาติ ผัดยอดมะระ ที่อร่อยต้องผักกรอบ น้ำผัดรสชาติกลมกล่อม ส่วนประกอบในจานรสชาติพอดี สูตรผัดยอดฟักแม้ว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

ส่วนผสมสำหรับทำผัดยอดฟักแม้ว

• ยอดมะระอ่อน 1 จาน เด็ดให้มีขนาดพอดีไม่ยาวหรือสั้นเกินไป
• กระเทียม 1 ช้อนชา (บดละเอียด)
• กระเทียมบุบ 3-4 กลีบ
• พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด (โขรกพอบุบ)
• เต้าเจี้ยวบด 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ซอสน้ำมันหอย 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำซุปกระดูก 3 ช้อนโต้ะ
• น้ำมันพืช สำหรับผัด 1 ช้อนชา

วิธีทำผัดยอดฟักแม้ว

1. เนื่องจากยอดมะระ เมื่อโดนความร้อนจะเฉาง่าย หากผัดนานเกินไปจะเละ ไม่น่ารับประทาน โดยให้เตรียมเครื่องสำหรับผัดทั้งหมดใส่จานพร้อมกันเลย
2. นำจานเตรียมอาหาร ใส่ยอดมะระ พริก กระเทียม เต้าเจี้ยว น้ำปลา น้ำตาล และ ซอสน้ำมันหอยใส่ลงไปในจาน
3. ตั้งกระทะน้ำมัน รอให้กระทะร้อนจัด เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปผัด เติมน้ำซุปกระดูกลงไปหน่อย ให้มีน้ำซอส
4. ผัดสักครู่ให้ผัดเริ่มเปลี่ยนสีก็นำขึ้นมาเสริฟใส่จานพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำผัดยอดฟักแม้ว

• การเลือกยอดฟักแม้ว หรือ ยอดมะระ ให้เลือกยอดอ่อน เนื่องจากยอดอ่อนจะเป็นส่วนที่นำมาทำอาหารได้อร่อยที่สุด ให้เด็ดยอด และ ล้างให้สะอาด ก่อนนำมาทำ
• กระเทียมสำหรับใช้ผัดเมนูนี้ให้เลือกใช้ กระเทียมไทย กลิ่นที่หอมกว่ากระเทีนมจีน เวลาโดนความร้อนจะทำให้รสหวานอร่อย คือ คุณสมบัติเด่นของกระเทียมไทย
• พริกให้เลือกใช้ พริกขี้หนูสวน เพื่อให้ได้รสชาติและความเผ็ดจัดจ้านถูกใจคนชอบรสเผ็ดๆ
• เต้าเจี้ยว สำหรับเต้าเจี้ยวนี้ต้องใช้เต้าเจี้ยวบดอย่างดี สามารถหาซื้อได้ที่ตลาดเก่าเยาวราช หากเพื่อนๆได้ลองใช้เต้าเจี้ยวบดอย่างดีแล้วจะทำให้ได้สัมผัดของซอสที่มีรสชาติแตกต่างจากทั่วไป เทคนิคสำคัญของการเตรียมเต้าเจี้ยว คือ การปรุงรสเต้าเจี้ยวก่อนนำมาใช้ปรุงอาหาร ซึ่งเราจะมานำเสนอ สูตรเต้าเจี้ยวปรุงรสให้เพื่อนๆอีกครั้งในบทความต่อไป
• ยอดมะระ มีลักษณะ เหมือนกับ ผัดบุ้ง คือ เหี่ยวเฉาง่าย การผัดต้องใช้ไฟที่แรง และ ผัดไม่ต้องใช้เวลานาน จะได้ผักที่ยังคงความกรอบอร่อยอยู่
• ไฟที่ใช้ในการผัด ให้ใช้ไปแรง ให้ผัดแบบสะตุ้งไป เพื่อให้คงความกรอบของผัก จึงจะได้รสชาติที่ดี
• สำหรับน้ำมันที่ใช้ในการผัด หากต้องการให้หอมมากขึ้น สามารถใส่กระเทียมลงไปผัดก่อนได้ ให้น้ำมันหอมระเหยของกระเทียมให้ความหอมของอาหารอย่างเต็มที่
• สูตรนี้เป็นสูตรเดียวกับ ผัดคะน้า หรือ ผัดผักบุ้งไฟแดง ซึ่งเปลี่ยนวัตถุดิบหลักเป็นยอดมะระ ดังนั้น ท่านสามารถนำสูตรนัี้ไปใช้เป็นสูตรผัดผักคะน้าได้ หรือ ผัดผักบุ้งไฟแดงก็ได้

กระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

 ภาษาอังกฤษ เรียก pork soup with black pepper วิธีทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ เป็นอาหารเบาๆ เมนูหมูตุ๋น นำกระเพาะหมูนุ่มๆมาตุ๋นในน้ำซุปโดยให้กลิ่นของพริกไทยดำเป็นหลัก เมนูสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เคล็ดลับการเตรียมเครื่องในหมู กระเพาะหมูทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูซุปกระเพราะหมู อร่อยๆ เมนูสุขภาพ คือ กระเพราะหมูตุ๋นพริกไทยดำ เคล็ดลับการทำอาหารเมนูนี้ อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร ให้กระเพาะหมูไม่คาว เทคนิคการตุ๋น และ การปรุงรสชาติ  สูตรกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

• เห็ดหอมแห้ง 4 – 5 ดอก โดยแช่น้ำให้นุ่มและหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• กระเพราะหมู 1 ก้อนประมาณ 2 ขีด
• พริกไทยดำ 3 ช้อนโต้ะ
• ซอสปรุงรส 4 ช้อนโต้ะ
• คื่นฉ่าย 2 ต้น
• ไข่นกกระทา 4-5 ฟอง
• ผักชี สำหรับโรยหน้า
• น้ำซุป 4 ถ้วย

วิธีทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

1. เริ่มต้นจากการเตรียมกระเพาะหมูก่อน โดยล้างกระเพาะหมู ให้สะอาด โดยกลับเอาด้านในออก ตั้งกระทะให้ร้อน เอากระเพาะหมูลงไปนาบให้ทั่ว และขูดผิวโดยรอบแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นนำ พริกไทยดำ ใส่เข้าไปในกระเพาะหมู และมัดให้แน่นด้วยด้าย ผูกไว้เป็นก้อนๆ เพื่อไม่ให้พริกไทยไหลออกกระเพาะหมู การทำเช่นนี้จะทำให้พริกไทยดำให้รสชาติของกระเพาะหมูที่ถึงเครื่อง
2. จากนั้นเตรียมหม้อตุ๋น โดยให้ใส่ กระเพาะหมู น้ำซุป ซอสปรุงรส และต้มประมาณ 1 ชั่วโมง ต้มจนกระเพาะหมูเปื่อย สังเกตุโดยให้สัมผัสผิวของหมูดู
3. เมื่อกระเพาหมูเริ่มได้ที่ ให้เอากระเพาหมูออก และ นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ จากนั้นใส่กลับลงไปหม้อตุ๋น ใส่เห็ดหอมลงไปต้ม
4. เสริฟกระเพาะหมูตู๋น โรยหน้าด้วย ผักชี คื่นฉ่าย และ ไข่นกกระทาต้ม ทานกับข้าวสวยร้อนๆแสนอร่อย

เคล็ดลับการทำกระเพาะหมูตุ๋นพริกไทยดำ

• สำหรับกระเพาะหมู การเตรียมกระเพาะหมู ให้ล้างให้สะอาด โดยเทคนิคสำคัญของการทำเมนูเครื่องในอย่างกระเพาะหมู คือ การล้างต้องล้างให้สะอาด ต้องล้างให้สะอาดโดยใช้สารส้มขัดให้กระเพาะหมูสะอาด ล้างจนกระเพาะหมูไม่มีคราบไขมัน ให้นำไปต้มให้สุก และ นำไปขูดให้มันออก เวลานำมาทำจะไม่คาว
• เทคนิคการตุ๋นพริกไทยดำ ให้ใช้พริกไทยดำ การนำพริกไทยดำมาตุ๋น ให้นำเม็ดพริกไทยแช่น้ำก่อน ตัดเอาเม็ดที่ลอยออก เนื่องจากเม็ดที่ลอยจะทำให้มีกลิ่นหืน
• การตุ๋นกระเพาะหมู ให้นำเม็ดพริกไทยยัดไส้ในและด้ายมัดให้แน่น ความหอมของพริกไทยดำจะช่วยดับคาวของกระเพาะหมู
• น้ำซุป สำหรับนำมาตุ๋นต้อง ใช้น้ำซุปกระดูกหมู จะทำให้น้ำซุปหอมกลมกล่อม
• เห็ดหอมแห้ง ให้นำไปแช่น้ำให้อิ่มน้ำก่อน จากนั้นล้างให้สะอาด ก่อนนำมาหั่น

วิธีทำกระเพาะหมูพริกไทยดำ อาหารเมนูหมู พริกไทยดำทำอะไรกินดี อาหารสุขภาพ กระเพาะหมูทำอะไรกินได้บ้าง อาหารบำรุงสุขภาพ กับข้าวง่ายๆ พริกไทยดำ สรรพคุณของพริกไทยดำ คือ ช่วยขัยของเสียออกจากร่ายกาย บำรุงเลือด ช่วยให้เลือดลมดี สำหรับเมนูเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ

น้ำพริกหนุ่ม

คือ น้ำพริกภาคเหนือ มีลักษณะข้น เป็นอาหารพื้นบ้านของล้านนา เป็นน้ำพริกยอดนิยม เป็นของฝากของภาคเหนือกินคู่กับแคบหมู บางสูตรใส่ ปลาร้า และ กะปิ บางสูตรใส่ น้ำปลา กับ เกลือ วิธีทำน้ำพริกหนุ่มง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ อาหารไทย อาหารพื้นเมือง สูตรน้ำพริกนิยมของภาคเหนือ อาหารขันโตก

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ขอนำเสนอ เมนูขันโตก คือ น้ำพริกหนุ่ม เคล็ดลับความอร่อยของเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรน้ำพริกหนุ่ม ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูน้ำพริก

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกหนุ่ม

• พริกหนุ่ม 10-15 เม็ด
• กระเทียม 5-6 กลีบ
• หอมหัวแดง 6 ลูก
• กะปิ 1 ช้อนชา
• เกลือ 1 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนชา
• ผักสด สำหรับทานเป็นเครื่องเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี ข้าวโพดอ่อน กระเจี๊ยบเขียวถั่วฝักยาว เป็นต้น
• แคบหมู ปริมาณตามต้องการ

วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม

1. เริ่มจากการนำ พริกหนุ่ม กระเทียม และ หอมหัวแดง ย่างหรือคั่วให้สุก จากนั้นนำพริกหนุ่มมาลอกเปลือกออก และ พักส่วนผสมทั้งหมดไว้ก่อน
2. นำกะปิห่อใบตอง และนำไปย่าง ให้หอมสุก จากนั้นนำมาพักเอาไว้ก่อน
3. เตรียมครกสำหรับโขรกน้ำพริก ใส่ พริกหนุ่ม กะปิ กระเทียม และ หอมแดง ลงไปโขรกให้ส่วนผสมทั้งหมเให้ละเอียด
4. จากนั้นปรุงรสด้วย เกลือ และ น้ำปลา
5. เสริฟ น้ำพริกหนุ่มใส่ถ้วยน้ำจอิ้ม เสริฟพร้อมกับเครื่องเคียงผักสด และ แค็บหมู

เคล็ดลับการทำน้ำพริกหนุ่ม

• สำหรับส่วนผสมของกะปิ ให้นำไปห่อใบตอง และ นำไปย่างให้สุกและหอมก่อน จะทำให้กะปิรสชาติดีขึ้น พร้อมกับให้กลิ่นที่ดีของกะปิ
• ส่วนผสมสำหรับกะปิ ในสูตรน้ำพริกหนุ่ม บางสูตรใช้ ปลาร้า หรือ ถั่วเน่า แทนกะปิ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบของช่วงเวลานั้นๆ
• พริกหนุ่มให้นำไปย่างก่อน เมื่อย่างพริกหนุ่มแล้ว ผิวพริกหนุ่มจะมีความไหม้นิดหน่อย จะให้กลิ่นที่หอม และ รสหวาน
• หอมแดง ให้นำไปคั่วหรือย่างให้สุกก่อน หอมแดงเมื่อโดนความร้อน จะให้รสหวานอร่อย พร้อมด้วยลดกลิ่นเหม็นเขียวของหอมแดงได้
• กระเทียม ให้นำไปย่างหรือคั่วก่อน เมื่อกระเทียมโดนความร้อนจะให้รสหวาน รวมทั้งลดกลิ่นของกระเทียมลงได้

วิธีทำน้ำพริกแบบภาคเหนือ น้ำพริกเมืองเหนือทำอย่างไร อาหารขันโตก น้ำพริกอร่อย ของชาวเหนือ สูตรน้ำพริกภาคเหนือ น้ำพริกหนุ่มทานกับแค็บหมูและผักเคียง อาหารสุขภาพ กินแล้วไม่อ้วน วันนี้ขอนำเสนอ สูตรน้ำพริก ของดีเมืองเหนือ หากใครไปเมืองเหนือไม่ได้ทาน ถือว่าไปไม่ถึง น้ำพริกหนึ่มนิยมทานคู่กับแคปหมู ส่วนผสมและวิธีทำ เขาทำกันอย่างไร

เป็ดตุ๋นพะดล้ยอดผัก

ป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก เมนูเป็ดตุ๋นพะโล้ พร้อมกับซอสเหนียวๆและยอดผัดคะน้ากรอบๆ วิธีทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เคล็ดลับความอร่อยของ เมนูเป็ด คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ วิธีปรุงรสชาติ เป็ดที่เหมาะสำหรับนำมาทำเป็ดตุ๋น

อาหารยอดนิยม สูตรอาหาร เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูตุ๋นจากเป็ด คือ เป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก หรือ เป็ดอบซีอิ้วยอดผัก อาหารที่ขาดไม่ได้สำหรับเมนูโต้ะจีน เนื้อเป็ดต้องนุ่ม ไม่เหม็นสาบ น้ำซอสรสกลมกล่อม เคล็ดลับการทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ สูตรเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูเป็ด

ส่วนผสมสำหรับทำเป็ดตุ๋นพะดล้ยอดผัก

• เป็ดเชอร์รี่ 1 ตัว

• ยอดผักคะน้า 4-5 ต้น
• ซอสดำ 5 ช้อนโต้ะ (สำหรับหมักเป็ด)
• ซอสปรุงรส 5 ช้อนโต้ะ
• ซอสน้ำมันหอย 5 ช้อนโต้ะ
• ซอสดำ 5 ช้อนโต้ะ สำหรับปรุงรสพะโล้
• รากผักชี 4-5 ต้น
• กระเทียม 10-20 กลีบ
• พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต้ะ
• พริกไทยป่น 2 ช้อนโต้ะ
• โปยกั๊ก 1 ช้อนโต้ะ
• อบเชย 2 ท่อน
• แป้งมันผสมน้ำ 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำเปล่า 10 ลิตร
• น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก

1. ล้างเป็ดให้สะอาด เอาเครื่องในออกให้หมดจากนั้น นำมาหมักด้วยซอสดำ หมักทิ้งไว้ 5 นาที
2. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน จากนั้นนำเป็ดลงไปทอด ให้หนังเป็ดตึง จากนั้นนำเป็ดออกมาพักไว้ก่อน
3. ตั้งหม้อต้ม จากนั้น ใส่ โปยกั๊ก อบเชย รากผักชี พริกไทยและกระเทียม ต้มให้เครื่องเทศหอม
4. จากนั้นปรุงรสด้วย น้ำตาลกรวด ซอสดำ ซอสปรุงรส ซอสน้ำมันหอย และ พริกไทยป่น ต้มให้ส่วนผสมเข้ากัน
5. จากนั้นนำเป็ดลงไปตุ๋น ใช้เวลาตุ๋น 4-6 ชั่วโมง
6. เตรียมซอสโดย นำน้ำจากการตุ๋นเป็ดลงไปผัดให้เดือด จากนั้นใส่แป้งมันผสมน้ำลงไปผัด ให้เหนียวก็พักเอาไว้ก่อน
7. นำยอดผักคะน้าลงไปผัดในกระทะน้ำมัน ให้สีเขียวมันเงา
8. นำเป็ดตุ่นจัดใส่จาน จัดหน้าด้วยยอดผักคะน้าผัด และ ราดด้วยน้ำซอสเหนียวๆ เท่านี้เป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมรับประทาน

เคล็ดลับการทำเป็ดตุ๋นพะโล้ยอดผัก

• เป็ดให้เลือกเป็ดตัวผู้ อายุ 4-5 เดือน เป็นเป็ดอ่อน จะมีเนื้ิอนุ่มและความเหม็นสาบของเป็ดตัวผู้น้อยกว่าเป็ดตัวเมีย
• การผัดซอสให้ใช้ไฟแรง และผัดแป้งเร็วๆ เพื่อไม่ให้ซอสเป็นก้อนแป้ง
• การตุ๋นเป็ด ต้องใช้ไฟแรง เวลาตุ๋น 4-6 ชั่วโมง จึงจะได้เป็ดที่เนื้อนุ่ม อร่อยที่สุด
• การทอดเป็ดให้หนังเป็ดตึงก่อน จะทำให้หนังเป็ดไม่เละเวลานำมาตุ๋น เทคนิคนี้ใช้เทคนิคเดียวกันกับการทำขาหมูพะโล้ จะได้หนังเหนียวนุ่มอร่อย
• สำหรับซอสดำ สามารถใช้น้ำตาลคั่วให้เป็นสีน้ำตาลแทนได้ จะได้รสชาติที่อร่อยแบบธรรมชาติด้วย
• ผักคะน้า ให้เลือกยอดอ่อน นำมาผัดในกระร้อนๆ จะได้ผักที่กรอบอร่อบ ความหวานของผักคะน้าไม่หายไป

หมูโสร่ง

 ภาษาอังกฤษ เรียก Fried pork ball with noodle วิธีทำหมูโสร่ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ จัดเป็นอาหารไทย โบราณ รสชาติอร่อย เป็นทั้งอาหารว่างและอาหารหลักได้ เคล็ดลับการทำหมูโสร่งง่ายๆ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่ายเหมาะสำหรับ คนรักการทำอาหาร เมนูหมู

สูตรอาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารไทยโบราณ เมนูทอด ชื่อ หมูโสร่ง ลักษณะเหมือนลูกชิ้นทอด ใช้หมูหมักปั้นเป็นลูกกลมๆ ห่อและพันด้วยเส้นบะหมี่ให้รอบๆ และ ทอด ให้เส้นกรอบ เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อนนุ่ม จิ้มด้วยน้ำจิ้มไก่ หรือ น้ำจิ้มอาจาดแสนอร่อย เคล็ดลับความอร่อยของหมูโสร่ง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร การปรุงรสชาติ และ เทคนิคการทอด สูตรหมูโสร่ง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำหมูโสร่ง

• หมูบะช่อ 2 ขีด
• หมูสับ 1 ขีด
• มันหมูบด 1 ขีด
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• เส้นบะหมี่ 2 ก้อน
• รากผักชี  2 ราก
• กระเทียม 4 กลีบ
• พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต้ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต้ะ
• น้ำจิ้มอาจาด
• แตงกวา 1 ลูกหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• พริกหนุ่มซอย 3 เม็ด
• หอมแดงซอย 1 ลูก
• ถั่วลิงสงคั่ว 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำจิ้มไก่
• น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำหมูโสร่ง

1. เตรียมครก นำ รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย โขรกให้ละเอียด
2. เริ่มหมักหมู โดย นำ หมูบะช่อ หมูสับ และ มันหมูบด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อหมู 1 ฟองนวดผสมให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปหมักในตู้เย็น ให้เนื้อหมูเซ็ตตัวประมาณ 2 ชั่วโมง
4. จากนั้นนำเนื้อหมูมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ และใช้เส้นบะหมี่มาพันให้รอบๆ ให้เป็นก้อน ทำจนหมดหรือตามที่ต้องการ
5. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน ลดไฟลงให้ได้ขนาดไฟอ่อน จากนั้นนำหมูโสร่งลงไปทอด ใช้ไปอ่อน ทอดปเรื่อยๆจนหมูสุกและบะหมี่กรอบพอดี
6. นำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จักใส่จาน ทานกับน้ำจิ้มอาจาด แตงกวา พริก และถั่วลิสงค์ หรือ น้ำจิ้มไก่

เคล็ดลับการทำหมูโสร่ง

• ไข่ไก่ จะเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อหมูจับตัวเป็นก้อน เวลานำมาทอดไม่แตกตัว
• น้ำมัน ต้องเลืิอกใช้น้ำมันใหม่ ใช้น้ำมันร้อน ไฟอ่อน ค่อยๆทอด ให้หมูและเส้นบะหมี่สุกพร้อมกัน ได้เนื้อหมูนุ่มเส้นบะหมี่กรอบอร่อย
• เนื้อหมูต้องผสมกัน ระหว่างหมูสับและมันหมู เพื่มความเนียนของเนื้อหมูด้วยการใช้หมูบะช่อด้วย จะได้เนื้อหมูที่นุ่มเด่งอร่อย
• เนื้อหมู ต้องเลือกใช้หมูสดๆ จะได้อาหารรสชาติที่อร่อยที่สุด
• เพื่อป้องกันปัญหาการทอดหมูไม่สุก สามารถนำหมูมาปั้นเป็นก้อนและนึ่งให้สุกก่อน จึงนำมาพันเส้นบะหมี่ก็จะได้เส้นบะหมี่ที่กรอบง่ายกว่า การที่ทอดหมูดิบๆ
• การทอดเพื่อไม่ให้หมูโสร่งอมน้ำมัน ต้องทอดขณะที่น้ำมันร้อน หากทอดขณะที่น้ำมันยังไม่ร้อนจะทำให้หมูอมน้ำมันไม่น่ารับประทาน

น้ำพริกปลาย่าง

ภาษาอังกฤษ เรียก Grilled fish fillet วิธีทำน้ำพริกปลาย่าง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ อาหารไทยพื้นบ้าน เมนูน้ำพริก นำปลาช่อนไปย่างให้สุก จากนัั้นนำเนื้อปลาย่างไปผสมกับส่วนผสมต่างๆของน้ำพริก เมนูปลา ปลาทำอะไรกินได้บ้าง มีปลาทำอะไรกินดี

เมนูอาหาร สูตรอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารพื้นบ้านแบบง่ายๆ คือ น้ำพริกปลาย่าง โดย เคล็ดลับความอร่อยของน้ำพริกปลาย่าง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติของพริก สูตรน้ำพริกสำหรับวันนี้แสนง่ายดาย   สูตรน้ำพริกปลาย่าง ส่วนผสมและขั้นการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหารเมนูสุขภาพ อาหารลดความอ้วน

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกปลาย่าง

• ปลาช่อน 1 ตัว
• หอมแดง 4 หัว
• พริกแห้งเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ข่าซอย 2 ช้อนโต้ะ
• กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
• ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต้ะ
• พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
• กระเทียม 5-6 กลีบ
• น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต้ะ
• ผักสด สำหรับทานคู่กับน้ำพริก เช่น ผักกะหล่ำปลี ผักบุ้ง แตงกวา มะเขือเปราะ เป็นต้น

วิธีทำน้ำพริกปลาย่าง

1. เริ่มการทำน้ำพริกปลาย่างด้วยการเตรียมปลาก่อน โดยนำปลาช่อนมาล้างให้สะอาด ล้างด้วยแป้งมัน และ น้ำเกลือ จะช่วยลดความคาวของเนื้อปลาได้มาก
2. จากนั้นนำปลาช่อนไปย่างให้สุก หลังจากนั้นให้แกะเอาแต่เนื้อปลา
3. นำกะปิห่อด้วยใบตองและนำไปย่างให้หอมสุก
4. นำหอมแดง และ กระเทียม ไปคั่วในกระทะให้สุกหอม
5. นำพริกแห้งเอาเม็ดออก และนำไปแช่น้ำให้นุ่ม
6. เริ่มการทำน้ำพริกโดย นำ กะปิ พริกแห้ง กระเทียม และ หอมแดง ลงไปโขรกให้ละเอียด
7. จากนั้นจึงใส่ ตะไคร้ และ ข่า ตามลงไปโขรกให้ละเอียดด้วยเช่นกัน จากนั้น ปรุงรสด้วย เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ แลพ น้ำมะขามเปียก
8. สุดท้ายใส่เนื้อปลาช่อนลงไปโขรกผสมให้เข้ากับน้ำพริก เสริฟน้ำพริกใส่ถ้วย พร้อมด้วยผัดสดๆ ที่เตรียมเอาไว้แล้ว

เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาย่าง

• ผัก ที่ใช้ในการกินกับน้ำพริกปลาย่าง ต้องเป็นผัดสดๆ ใหม่ โดยให้นำไปแช่น้ำเย็น ให้ผักกรอบ จะยิ่งอร่อยมากไปอีก
• กะปิ ต้องใช้กะปิ ระยอง นำกะปิไปห่อใบตอง และปิ้งให้หอมสุก เป็นการเพิ่มความหอมให้กะปิ และเป็นการทำให้กะปิสุกด้วย
• หอมแดง และ กระเทียม นั้นให้นำไปคั่วให้ใหม่ จะทำให้มีรสหวานและหอมมากขึ้น
• พริกแห้งให้เอาเม็ดออกก่อน นำไปแช่น้ำให้นุ่ม เพื่อต้องการให้น้ำพริกได้สีแดงสวยน่ารับประทาน
• กระเทียม สำหรับเมนูนี้ให้เลือกใช้กระเทียมไทย เนื่องจากความหอมของกระเทียมมีมากกว่ากระเทียมจีน
• ปลาช่อน ให้เลือกปลาช่อนขนาด 7 ขีด จะได้ปลาช่อนขนาดพอดี เนื้อหวานน่ารับประทาน
• การล้างปลาให้สะอาดก่อนนำไปย่าง จะทำให้เนื้อปลาไม่คาว โดยการล้างปลาให้สะอาด นั้น ให้ล้างด้วยเกลือ และล้างจนไม่เหลือเมือกลื่นๆ
• การแกะเนื้อปลา ให้แกะเนื้อปลาตามแนวก้างปลา อย่าแกะสวนแนวก้างปลา เพราว่า จะทำให้ติดก้างปลามาด้วย ทำให้ก้างอาจติดคอ และทำให้เสียความอร่อย
• การโขรกสมุนไพร ให้เลือกโขรกสมุนไพรเนื้อแข็งก่อน จะทำให้ละเอียดง่ายกว่า

ทองหยอด

 คือ ขนมไทย เมนูขนมเชื่อม มีที่มาจากขนมโปรตุเกส วิธีทำขนมทองหยอด ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ ขนมจากไข่ไก่ นำแป้งผสมกับไข่แดง หยอดลงในน้ำเชื่อมเดือดๆ ขนมคล้ายหยดน้ำ สีเหลืองทอง ท้าวทองกีบม้า คือ ผู้นำมาเผยแพร่ในไทย ตั้งแต่สมัยอยุธยา ทองหยอดนิยมใช้ในงานมงคลต่างๆ เคล็ดลับการทำขนมมีอะไรบ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ ขนมไทย ตระกูลทอง คือ ทองหยอด ขนมทองหยอดคือ หนึ่งใน 9 ขนมตระกูลทอง ประกอบด้วย ขนมทองหยิบ ขนมทองหยอด ขนมฝอยทอง ขนมขนมชั้น ขนมเม็ดขนุน ขนมถ้วยฟู ขนมจ่ามงกุฎ ทองเอก และ ขนมเสน่ห์จันทร์  ขนมไทยโบราณ ได้รับอิธิพลจากโปตุเกส สูตรขนมทองหยอด ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจงา่ย เหมาะสำหรับคนรักการทำขนม เมนูไข่

ส่วนผสมสำหรับทำ

ฉพาะไข่แดง )

• น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
• น้ำลอยดอกมะลิ 3 ลิตร
• แป้งข้าวจ้าว 0.5 กิโลกรัม
• ใบเตย 5 ใบ
• เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำขนมทองหยอด

• เริ่มจากการเตรียมน้ำลอยดอกมะลิ โดย นำน้ำสะอาด มาแช่ดอกมะลิ ทิ้งเอาไว้ก่อน 1 คืน โดย ดอกมะลิที่ใช้ในการแช่น้ำลอยดอกไม้ ให้ใช้ดอกมะลิที่เด็ดตอนกลางคืน จะได้กลิ่นหอมของดอกไม้
• เริ่มผสมแป้ง โดย นำไข่เป็ด 20 ฟอง ที่แยกไข่แดงนั้น มาตีให้ขึ้นฟู จากนั้นผสมแป้งข้าวจ้าว ตีให้ส่วนของไข่แดงและแป้งเข้ากัน ก็จะได้แป้งสำหรับหยอดน้ำ
• เตรียมน้ำเชื่อม โดย ให้ใช้ น้ำลอยดอกมะลิ นำมาต้มให้เดือด ใส่ใบเตยลงไปต้ม ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย และ เกลือ เคี้ยวด้วยไฟอ่อนๆ ให้น้ำเชื่อมหวานกลมกล่อม
• เริ่มทำการหยอดแป้ง โดยให้เร่งไฟน้ำเชื่อมให้เดือด จากนั้น นำแป้งมาหยอดลงในหม้อน้ำเชื่อม แป้งเมื่อลงไปในน้ำเชื่อม จะสุก และ มีลักษณะของหยดน้ำ ต้มให้แป้งสุก โดยสังเกตุว่าแป้งสุกจะลอยขึ้นมา ก้สามารถเสริฟใส่จานพร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำขนมทองหยอด

• เทคนิคการทำน้ำลอยดอกมะลิ ให้เลือกใช้น้ำสะอาด ความสำคัยอยู่ที่ ดอกมะลิที่นำมาลอยน้ำ ให้เลือกใช้ดอกมะลิสดๆ เด็ดตอนกลางคืน เนื่องจากดอกมะลิจะให้กลิ่นหอมเวลากลางคืน
• สำหรับหากไม่มีน้ำลอยดอกมะลิ ให้ใช้ใบเตยต้มน้ำและน้ำตาลแทน จะได้น้ำเชื่อมกลิ่นใบเตย
• ไข่สำหรับนำมาทำขนม ต้องเป็นไข่เป็ด เลือกเฉพาะไข่แดง ความอร่อยของขนมอยู่ที่เทคนิคการตีไข่แดง ต้องตีไข่แดงให้ขึ้นฟู มีฟองอากาศอยู่ในไข่จึงจะได้ขนมที่ฟูเนื้อเนียน
• แป้งข้าวจ้าว หากสามารถใช้ข้าวสารโม้แป้งแบบสดๆ ได้จะดีที่สุด เนื่องจากจะได้แป้งเนื้อเนียน แต่หากไม่สามารถหาได้ ก็ให้ใช้แป้งข้าวจ้าว แต่เมื่อนำมาผสมกับไข่แดงแล้ว ให้พักไว้สัก 1 ชั่วโมง เพื่อให้แป้งละลายและเซ็ตตัว
• การต้มเมูดทองหยอด ให้ต้มในน้ำเชื่อม ความหวานของน้ำเชื่อมจะซึมเข้าไปในแป้ง ให้ความหวานอร่อย
• น้ำเชื่อม ให้ใช้น้ำลอดอกมะลิ ผสมน้ำตาลทรายและเกลือ น้ำเชื่อมจะกลมกล่อมได้ ต้องมีเกลือผสม

น้ำพริกปลาร้า

ภาษาอังกฤษ เรียก Fermented fish spicy dip วิธีทำน้ำพริกปลาร้า ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ อาหารไทย เมนูน้ำพริก เมนูปลา ปลาร้าทำอะไรกินได้บ้าง เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาร้า สูตรน้ำพริกปลาร้า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

สูตรอาหาร เมนูอาหาร สำหรับวันนี้ ขอนำเสนออาหารยอดนิยม อาหารจากปลาร้า เป็น เมนูอาหารพื้นบ้าน แบบง่ายๆ คือ น้ำพริกปลาร้า เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาร้า อยู่ที่ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ วิธีการปรุงรสชาติ อาหารอีสาน เมนูปลา สำหรับกินกับผักสด และ ไข่ต้ม สูตรน้ำพริกปลาร้า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูอาหารคลีน

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกปลาร้า

• น้ำปลาร้า 5 ช้อนโต้ะ
• เนื้อปลาช่อนสับ 10 ช้อนโต้ะ
• พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
• กระเทียม 4 ปลีบ
• หอมหัวแดง 4 หัว
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
• ผักสด สำหรับเป็นผักเคียงทานกับน้ำพริกปลาร้า เช่น แตงกวา มะเขือ และ ผักกะหล่ำปลี เป็นต้น

วิธีทำน้ำพริกปลาร้า

1. เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบก่อน นำปลาร้าไปต้มให้สุกก่อน จากนั้นนำเนื้อปลาช่อนไปลวกให้สุก และ นำวัตถุดิบมาพักให้เย็นก่อน เพื่อเตรียมนำมาทำน้ำพริก
2. เริ่มการทำน้ำพริก โดย เตรียมคร จากนั้น ใส่ กระเทียม พริกขี้หนูสวน ไป โขรกให้ละเอียด จากนั้น ใส่หอมหัวแดง ลงไปโขรก โขรกให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
3. ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และ น้ำมะนาว จากนั้นใส่ ปลาร้า และ เนื้อปลาช่อนลงก ลงไปในโขรก คลุกเคล้าให้เข้ากัน และ ชิมรสชาติ เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำพริกปลาร้าแสนอร่อยแล้ว
4. เสริฟน้ำพริก ใส่ถ้วยน้ำพริก โรยหน้าดัวยผักชี และ ทานคู่กับผักสดๆ ข้าวเหนียว และ ไข่ต้ม

เคล็ดลับการทำน้ำพริกปลาร้า

• การเลือกปลาร้า ให้เลือกปลาร้าที่ตัวโตๆ จะได้มีเนื้อเยอะ น้ำปลาร้าจากปลาระดี่ มีรสชาติที่อร่อยที่สุด
• การเลือกปลาช่อน ให้เลือกปลาช่อนที่สดๆ เทคนิคการเลือกปลาช่อน ดูที่เหงือกปลาต้องมีสีแดงสด ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์ เนื้อปลาแน่น ไม่มีกลิ่นเน่า และ ขอดเกล็ดปลาให้เรียบร้อย
• เทคการเตรียมอาหารประเภทเนื้อปลา การล้างปลา จัดเป็นเคล็ดลับความอร่อย ต้องล้างปลาให้สะอาด ไม่มีเมือกและเลือดปลาตกค้าง จะทำให้เนื้อปลาไม่คาว เทคนิคการล้างปลา ให้ใช้แป้งมันถูที่ตัวปลา และ ล้างน้ำออก แป้งมันจะจับเมือกปลาได้ดี จากนั้นให้ใช้เกลือขัดที่ตัวปลาอีกครั้งหนึ่ง
• การลวกเนื้อปลา ให้ใช้น้ำเดือดๆ และน้ำที่ลวกปลาแล้วให้ทิ้งไปเลย ไม่นำกลับมาปรุงอาหาร
• การคั่ว กระเทียม หอมแดง และ พริก เพื่อให้ ได้กลิ่นหอมของ กระเทียม หอมแดง และ พริก ซึ่ง เมื่อวัตถุดิบเหล่านี้ดดนความร้อนจะทำให้เกิดความหอมและความหวาน ลดกลิ่นเหม็นเขียวของอาหาร
• เมนูนี้ไม่ใช้กะปิ เนื่องจากปลาร้ามีรสเค็มอยู่แล้ว หากใส่กะปิลงไปด้วยจะทำให้อาหารเค็มเกินไป ไม่เหมาะสำหรับนำมาทำน้ำพริกเมนูนี้
• สำหรับเนื้อปลา ท่านสามารถเลือกใช้เนื้อปลาชนิดอื่นได้แทน ตามความเหมาะสมของท้องถิ่นของท่าน โดยเทคนิคการเตรียมเนื้อปลา และ การเลือกปลา นั้นก็เหมือนเทคนิคการเตรียมเนื้อปลาช่อน

น้ำพริกอ่อง

คือ น้ำพริกพื้นบ้าน อาหารไทย อาหารเหนือ วิธีทำน้ำพริกอ่อง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูหมู ลักษณะเด่นของน้ำพริกอ่อง คือ มีสีส้ม มีน้ำขลุกขลิก มีสามรสชาติ คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ดเล็กน้อย  และ หวานตาม นิยมกินกับผักสด

อาหารไทย เมนูอาหาร สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ นำเสนอ อาหารเหนือ หรือ เรียกกันว่า เป็น อาหารล้านนา คือ น้ำพริกอ่อง เป็น อาหารเหนือ ที่ใครๆก็รู้จัก เคล็ดลับการทำน้ำพริกอ่อง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรชาติ สูตรน้ำพริกอ่อง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำน้ำพริกอ่อง

• หมูสับ 3 ขีด
• มะเขือเทศ 5-6 ลูก
• หอมแดง 2 หัว หั่นเป็นชิ้นๆ
• พริกแห้ง 5-6 เม็ด หั่นเป็นชิ้นๆ
• ตะไคร้ 1 ต้น ซอยให้ละเอียด
• กะปิ 1 ช้อนโต้ะ
• เต้าเจี้ยว 1 ช้อนชา
• กระเทียม 5-6 กลีบ สับให้ละเอียด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
• ผักสด สำหรับเป็นผักเคียงกับน้ำพริก เช่น แตงกวา มะเขือ ผัดกาดหอม เป็นต้น
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำเปล่า 5 ช้อนโต้ะ

วิธีทำน้ำพริกอ่อง

1. เริ่มจากการโขรกเครื่องพริกแกงอ่องก่อน โดยใส่ หอมหัวแดง กะปิ กระเทียม เต้าเจี้ยว พริกแห้ง ตะไคร้ โครกส่วนผสมทั้งหมดละเอียด จากนั้นเติมน้ำลงไป และ พักเอาไว้ก่อน
2. จากนั้นตั้งกระทะน้ำมัน รอให้ไฟร้อน ใส่ พริกแกงอ่อง ลงไปผัดให้สุก เมื่อพริกแกงสุกจะมีกลิ่นหอม จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัด ผัดให้หมูสับสุก
3. จึงใส่มะเขือเทศลงไปผัด ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และใส่ น้ำเปล่านิดหน่อย ผัดให้ส่วนผสมสุก ปิดไฟ
4. เสริฟใส่น้ำพริกใส่ถ้วยน้ำพริก พร้อมด้วยผักสดๆ

น้ำพริกอ่อง ภาษาอังกฤษ เรียก Northern thai meat and tomato spicy dip เป็น น้ำพริก รสชาติอร่อย แบบฉบับของชาวเหนือ รสหวานของหมู รสเปรี้ยวของมะเขือเทศ ทำให้น้ำพริก เมนูน้ำพริกอ่อง ไม่น่าเบื่อ

เคล็ดลับการทำน้ำพริกอ่อง

• มะเขือเทศ ให้ใช้มะเขือเทศลูกเล็ก เอาสีส้ม จะได้รสเปรี้ยวที่มากกว่าผลใหญ่ ได้รสชาติที่อร่อย
• เนื้อหมูให้ใช้เนื้อหมูสด ใหม่เอาหมูติดมันเล็กน้อย ใช้ส่วนสะโพกหมูหรือหมูส่วนสันนอก จะอร่อยกว่า
• สำหรับพริกแห้ง ให้เลือกใช้ พริกแห้งบางช้าง จะมีสีแดง ผลใหญ่ กลิ่นหอมเวลาทำจะอร่อย
• สำหรับกระเทียม ในการทำน้ำพริก ให้เลือกใช้ กระเทียมไทย ซึ่งกระเทียมไทยจะทำให้น้ำพริกหอมมากกว่ากระเทียมจีน

ไก่ทอดคั่วพริกเกลือ

 อาหารไทย เมนูปีกไก่ ทอดและคั่วด้วยพริกเกลือ วิธีทำปีกไก่ทอดคั่วพริกเกลือ ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรปีกไก่ทอดคั่วพริกเกลือ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูไก่ เมนูทอด เมนูมีปีกไก่ทำอะไรกินดี ปีกไก่ทำอะไรกินได้บ้าง

สูตรอาหาร เมนูอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูคั่วพริกเกลือ คือ ปีกไก่คั่วพริกเลือ อาหารพื้นบ้าน เคล็ดลับความอร่อยของอาหารเมนูนี้ คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการทำอาหาร การปรุงรสชาติ สูตรปีกไก่คั่วพริกเกลือ ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรัก การทำอาหาร เมนูไก่คั่วพริกเกลือ

ส่วนผสมสำหรับทำปีกไก่ทอดคั่วพริกเกลือ

• ปีกกลางไก่ 10-15 ชิ้น
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• แป้งสำหรับทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• กระเทียม 3-4 กลีบ ซอยละเอียด
• พริกขี้หนูสวน 4-5 เม็ด ซอยเป็นชิ้นเล็กๆ
• รากผักชีบดละเอียด 2 ราก
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ต้นหอมซอย 1 ต้น
• น้ำมันพืชสำหรับทอด และ ผัด

วิธีทำปีกไก่คั่วพริกเกลือ

1. เริ่มจากการหมักปีกไก่ก่อน ส่วนผสมสำหรับหมักไก่ ประกอบด้วย ซอสปรุงรส และ ซอสน้ำมันหอย หมักในตู้เย็น 30 นาที
2. จากนั้นนำปีกไก่ไปคลุกแป้งสำหรับทอด และ นำไปทอดในกระทะน้ำมันที่ร้อน ไฟที่ใช้ในการทอด ไฟปานกลาง ทอดจนปีกไก่ เหลือ สุก น่ารับประทาน
3. เทคนิคการทอดให้ทอด 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ไก่สุกเหลือง เนื้อไก่ด้านในสุก จากนั้นนำมาพักใ้หนังไก่แห้งก่อน และนำไปทอดอีกครั้ง จะได้ หนังไก่ที่กรอบ และ เนื้อไก่นุ่ม เมื่อได้ปีกไก่ทอดพร้อมแล้ว จะนำไปผัดคั่วปพริกเกลือต่อไป
4. ตั้งกระทะน้ำมัน โดยใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่ รากผักชี กระเทียม และ พริกไทยป่น ลงไปผัดให้หอมสุก
5. จากนั้นใส่ น้ำตาลทราย และ เกลือป่น ลงไปผัด
6. นำปีกไก่ทอด ลงไปผัดให้เข้ากับซอสในกระทะ ใส่พริกขี้หนูสวนลงไปผัด ผัดจะหอม ก็ปิดไฟ
7. เสริฟปีกไก่คั่วพริกเกลือ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย

เคล็ดลับการทำปีกไก่คั่วพริกเกลือ

• การเลือกปีกไก่ ให้เลือก ปีกไก่ที่สดใหม่ และ สะอาด ต้องเป็นปีกไก่ที่มีขนาดโต เนื้อมากหน่อย เทคนิคการสังเกตุปีกไก่ที่ดี ดูที่สีของปีกไก่ ต้องมีความสด หนังตึง สีไม่ซีด หรือ มีสีคล่ำ เวลาจับ เนื้อแน่น หนังไก่ตึงไม่เหี่ยว
• การเตรียมปีกไก่ สำหรับนำมาทำอาหาร ก่อนนำมาปรุงอาหาร ให้ล้างให้สะอาดก่อน
• ปีกไก่ต้องนำไปหมักก่อน เพื่อให้ปีกไก่มีรสชาติ ทำให้อาหารอร่อยมากขึ้น
• รากผักชี กระเทียม และ พริกไทย ต้องนำมาผัดให้สุกหอมก่อน จะทำได้อาหารที่รสชาติอร่อย
• การทอดปีกไก่ ต้องใช้น้ำมันใหม่ที่ไม่ผ่านการทอดมาก่อน โดยเทคนิคการใช้ไฟ ให้ใช้น้ำมันร้อน และ ไฟปานกลาง
• ใบหอม หากนำมาผัดผักจะเฉาไม่น่ารับประทาน ให้ใช้ในการโรยหน้า จะได้ต้นหอมที่สวยน่ารับประทาน
• รสชาติของของปีกไก่คั่วพริกเกลือ ให้มีรสชาติหวานๆเค็มๆ
• หากไม่ชอบปีกไก่ สามารถใช้ส่วนอื่นๆของไก่ได้ เช่น น่องไก เป็นต้น

ผัดเปรี้ยวหวานปลา

ภาษาอังกฤษ เรียก Sweet and Sour fried with fish คือ อาหารผัดจากปลา เมนูปลา วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานปลา ง่ายๆสามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรผัดเปรี้ยวหวานปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูผัด

อาหาร สูตรอาหารยอดนิยม สำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ เมนูผัดเปรี้ยวหวาน เมนูปลา คือ ผัดเปรี้ยวหวานปลา เป็นอาหารที่รสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถกินได้ ทุพเพศ ทุกวัย ทุกชาติ ทุกศาสนา เคล็ดลับการทำผัดเปรี้ยวหวานปลา คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรผัดเปรี้ยวหวานปลา ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร  เมนูปลาผัด

ส่วนผสมสำหรับทำ ผัดเปรี้ยวหวานปลา

• ปลานิล 1 ตัว แล่เนื้อปลาและหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต้ะ
• มะเขือเทศ 1 ลูก หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
• พริกหวาน 1 ลูก หั่นเป็นชิ้น
• พริกหยวกสีต่างๆ นำมาหั่นเป็นชั้นขนาดพอดีคำ
• หอมหัวใหญ่ ครื่งลูก หั้นเป็นชิ้นใหญ่ๆ
• กระเทียม 2 กลีบ บดให้ละเอียด
• ต้นหอม 1 ต้น หั่นหยาบๆ
• แครอท หั่นเป็นลูกเต๋า 2 ช้อนโต้ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
• ซอสพริก 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันพืชสำหรับผัดและทอด

วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานปลา

1. เรื่มจากการล้างปลาให้สะอาด จากนั้นแล่เนื้อปลาเป็นชิ้นๆ คลุกแป้งข้าวโพด
2. ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน นำเนื้อปลาลงไปทอด ให้สุกกรอบ เหลือง น่ารับประทาน จากนั้นนำไปพักเอาไว้ก่อน ให้เย็นก่อน
3. เริ่มซอสเปรี้ยวหวาน โดยตั้งกระทะน้ำมัน นำกระเทียมลงไปผัดให้หอม จากนั้นปรุงรส ด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และ น้ำเปล่า ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน
4. จากนั้นใส่ผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ลงไปผัด ประกอบด้วย พริกหวาน พริกหยวก แครอท มะเขือเทศ และ หอมหัวใหญ่
5. ใส่แป้งข้าวโพดผสมน้ำ 2 ช้อนโตะลงไปผัด ให้น้ำซอสเหนียว
6. ใส่เนื้อปลาทอดลงไปผัด คลุกเคล้าให้เข้ากับซอส ใส่ต้นหอมลงไปผัด ปิดไฟ
7. เสริฟ ผัดเปรี้ยวหวาน ทานคู่กับ ข้าวสวยร้อนๆ

เคล็ดลับการทำปลาผัดเปรี้ยวหวาน

1. การเลือกปลา ให้เลือกปลาที่สดๆใหม่ โดยเทคนิคการเลือกปลา คือ เลือกปลาที่เหงือกแดงสด ตาปลาใส และ ลักษณะของตัวปลาสมบูรณ์
2. การเตรียมปลา ให้ล้างปลาให้สะอาด ไม่ให้มีเมือกและเลือดติดมากับปลา เพราะ จะทำให้ปลาคาว โดยเทคนิคการล้างปลา ให้เกลือล้างปลา หรือ ใช้ แป้งมันถูที่ตัวปลา และ ล้างออก
3. การผัดเนื้อปลา เนื่องจากเนื้อปลาหากสุกจะเละ และ แตกง่าย ทำให้ไม่น่ารับประทาน ให้ใช้เทคนิคการนำปลาลงไปทอดให้กรอบที่ผิวนอกก่อน จะทำให้เนื้อปลาไม่เละ
4. เนื้อปลาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน นั้น เวลานำมาผัดกับซอสเปรี้ยวหวาน ให้ใ่สปลาในขั้นตอนสุดท้าย หรือ ไม่ต้องใส่เนื้อปลาลงไปผัดก็ได้ ให้ราดน้ำผัดเปรี้ยวหวานลงบนปลาทอดเลย
5. น้ำมันที่ใช้ในการทอดปลา ให้ใช้น้ำมันใหม่ อย่าใช้น้ำมันเก่ามา

ไส้อั่ว

ไส้อั่ว คือ ไส้กรอกพื้นเมืองของภาพเหนือ ทำจากเนื้อหมูผสมเครื่องแกง และนำมาย่าง วิธีทำไส้อั่ว ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ เมนูหมู เมนูปิ้งย่าง สูตรไส้อั่ว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร

อาหารไทย เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารพื้นบ้าน เมนูหมู คือ ไส้อั่ว ไส้กรอกหมูแบบภาคเหนือ เอกลักษณ์ของไส้อั่วต้องมีกลิ่นตะไคร้นำรสชาติ เคล็ดลับการทำไส้อั่ว คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรไส้อั่ว ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนชอบอาหาร เมนูหมู

ส่วนผสมสำหรับทำไส้อั่ว

• ไส้ดิบ 1 กิโลกรัม
• เนื้อหมูสะโพก 2 กิโลกรัม
• มันหมู 500 กรัม
• ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต้ะ
• พริกแห้งเม็ดใหญ่ซอย 3 ช้อนโต้ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ขมิ้นซอย 3 ช้อนโต้ะ
• กระเทียม 3 ช้อนโต้ะ
• หอมแดงซอย 3 ช้อนโต้ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต้ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ใบมะกรูดหั่นฝอย 5 ช้อนโต้ะ

วิธีทำไส้อั่ว

• เริ่มจากการเตรียมไส้อ่อนก่อน นำไส้มาล้างให้สะอาดก่อน และ นำมาพักเอาไว้ก่อน
• เตรียมพริกแกง โดย โขรก ตะไคร้ พริกแห้ง เกลือ ขมิ้น กระเทียม หอมแดง โขรกให้ส่วนผสมละเอียดเข้ากัน
• นำเนื้อหมูและมันหมูมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำมานวดผสมกับพริกแกง และ ใบมะกรูดซอย ให้เข้ากัน
• ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือ หมักทิ้งไว้ 30 นาที
• จานนั้นนำเนื้อหมูมากรอกใส่ในไส้อ่อน และ มันให้เป็นท่อนขนาดตามต้องการ
• จากนั้นนำไปย่างในไฟอ่อนๆ ประมาณ 45 นาที จะได้ไส้อั่วแสนอร่อย

เคล็ดลับการทำไส้อั่ว

• เนื้อหมูต้องเลือกใช้เนื้อหมูที่สดๆ ใหม่ เทคนิคการเลือกเนื้อหมูสดๆ คือ เนื้อหมูต้องสีแดงธรรมชาติ เนื้อแน่น เด้ง ตึง ไม่มีกลิ่นเน่า หรือ ไม่มีสีคล้ำ
• การล้างไส้อ่อน เป็นขั้นตอนที่สำคัญ โดยวิธีการล้างไส้อ่อนให้สะอาด ให้กลับด้านไส้และใช้ช้อนขูดเมือกออกให้หมด นำมาล้างกับแป้งมัน จากนั้นล้างกับเกลือ และ ล้างกับสารส้ม จากจนไส้อ่อนสะอาด น้ำใส
• การกรอกไส้อั่ว ให้กรอกให้พอดีๆ อย่าอัดแน่นเกินไป หรือ หลวมเกินไป
• การย่างไส้อั่วให้ใช้ไฟอ่อนๆ ค่อนๆให้สุกจนถึงเนื้อใน เทคนิคการย่างให้ไส้อั่วหอม ให้เอาตะไคร้วางบนตะแกรงย่าง จะให้ไส้อั่วหอมตะไคร้
• เมนูไส้อั่ว ไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะ จะทำให้เสียรสชาติของไส้อั่ว
• สามารถนำมากินคู่กับผักเคียงได้ตามใจชอบ
• ไส้อั่วที่ดี ต้องมีกลิ่นตะไคร้นำ หอมจะไคร้และไม่หวานเกิน

ข้าวต้มกุ้ง

 ( rice soup with shrimp ) คือ อาหารเบาๆ เมนูกุ้ง วิธีทำข้าวต้มกุ้ง ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรข้าวต้มกุ้ง เคล็ดลับความอร่อย คือ ข้าวนุ่มๆ น้ำซุปเข้มค้น เนื้อกุ้งลวกหวานๆ มีกุ้งทำอะไรกินได้บ้าง ขอแนะนำ เมนูอาหารจานเดียวจากข้าวหุงสุกอร่อยๆ

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอนำเสนอ อาหารเช้า อาหารเบาๆสบายท้อง คือ ข้าวต้ม สำหรับเมนูนี้ เป็น ข้าวต้มกุ้ง เคล็ดลับความอร่อยของข้าวต้มกุ้ง คือ วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรข้าวต้มกุ้ง ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำข้าวต้มกุ้ง

• กุ้งขาว 5 ตัว ให้แกะเปลือก ผ่าเส้นที่หลังออก
• น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง ประมาณ 1 หม้อ
• ข้าวหอมมะลิใหม่หุงสุก 1 ถ้วยตวง
• ซี่โครงกระดูกหมู ครึ่งกิโลกรัม
• ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมเจียว 1 ช้อนชา
• เห็ดหอม หั่นเป็นชิ้น 1 ดอก
• คึ้นฉ่าย 1 ต้นหั่นเป็นชื้นๆ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำข้าวต้มกุ้ง

1. เริ่มจากการเตรียมน้ำซุปก่อน ให้ใช้น้ำซุปกระดูกหมู โดยให้ต้มน้ำให้เดือด ใส่เกลือ และ ซึ่โครงกระดูกหมูลงไป ต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 45 นาที จะได้น้ำซุปหวานๆจากกระดูกหมู
2. จากนั้นหุงข้าวหอมมะลิให้สุก ใส่น้ำให้มากหน่อยอย่าให้ถึงกับข้าวเละ
3. เริ่มำข้าวต้มกุ้ง โดย ตั้งหม้อต้มใส่น้ำขนาดพอดีชาม ใส่ คื่นฉ่าย และ เห็ดหอม ลงไปต้ม
4. ปรุงรสด้วย ซีอื้วขาว และ พริกไทยป่น
5. จากนั้นใส่ข้าวหุงสุกประมาณ 1 ชามลงไปต้มกับน้ำซุป ชิมรสชาติให้ได้ จากนั้นใส่กุ้งขาวลงไปต้ม เมื่อกุ้งขาวสุก
6. เสริฟใส่ชาม โรยหน้าด้วย กระเทียมเจียว

เคล็ดลับการทำข้าวต้มกุ้ง

• การเลือกใช้กุ้ง ใหเลือกใช้ กุ้งตัวใหญ่ สดๆ ใหม่ๆ ล้างให้สะอาด แกะเปลือก และผ่าเส้นที่หลังออก เนื่องจากเส้นที่หลังเป็นเส้นคาว
• การทำอาหารประเภทเนื้อกุ้ง เนื่องจากกุ้งสุกง่าย ไม่แนะนำให้ ลวกกุ้ง ให้สุกเกินไป เนื่องจากกุ้งจะแข็ง และ หมดความอร่อย ดังนั้น สำหรับ สูตรข้าวต้มกุ้ง ต้อง ลวกกุ้ง ไว้ก่อน เพื่อให้สามารถประมาณความสุกของ เนื้อกุ้ง ได้ดี
• ข้าวสำหรับนำมาทำข้าวต้ม ต้องใช้ ข้าวหอมมะลิใหม่ จะทำให้ข้าวมีความนุ่ม และอร่อย หากใช้ ข้าวเก่า ข้าวจะสุกยากและแข็ง เวลากินไม่มีความนุ่ม
• น้ำซุปสำหรับทำข้าวต้ม ให้ใช้ น้ำซุปกระดูกหมู จะเพิ่มความกลมกล่อมให้กับ ข้าวต้มกุ้ง
• น้ำซุปข้าวต้มที่อร่อย ต้องมีกลิ่นของคื่นฉ่าย จึงจะเป็นข้าวต้มที่กลิ่นหอมอร่อย

แกงป่าหมู

คือ อาหารไทย เมนูหมู แกงพื้นบ้าน รสชาติจัดจ้าน วิธีทำแกงป่าหมู ง่ายๆ สามารถทำกินเองที่บ้านได้ สูตรแกงป่าหมู ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู จากต้นตำรับ

สูตรอาหาร เมนูอาหาร ยอดนิยมสำหรับวันนี้ ขอแนะนำ เมนูแกงป่า เอกลักษณ์ของแกงป่า คือ เครื่องเทศ และ ส่วนผสมที่อุดมณ์ไปด้วยสมุนไพรต่างๆ เผ็ดร้อน ไม่มีรสหวาน ช่วยขับเหงื่อ ปรับสมดุลย์ร่างกายได้ดี เคล็ดลับการทำแกงป่าหมู อยู่ที่วัตถุดิบคุณภาพ เทคนิคการเตรียมอาหาร และ การปรุงรสชาติ สูตรแกงป่า ส่วนผสมและขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูแกง

ส่วนผสมสำหรับทำแกงป่าหมู

• เนื้อหมูสามชั้น หั่น 1 ถ้วยตวง
• น้ำพริกแกงป่า 3 ช้อนโต๊ะ (ส่วนประกอบของพริกแกงป่า พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด พริกเเม็ดใหญ่แห้ง 10 เม็ด ตระไคร้ 2 ต้น ข่าซอยสัก 5 แว่น ผิวมะกรูด 1 ลูก หอมแดง 5 หัว กระชาย 5 เหง้า กระเทียม 2 หัว เกลือป่น 1 ช้อนชา กะปี 1 ช้อนโต๊ะ )
• มะเขือเปราะ 2 ลูก หั่นเป็นชี้น
• มะเขือพวง 1 หยิบมือ
• ขิง 3 ช้อนโต้ะ นำมาซอยเป็นเส้นๆ
• ถั่วฝักยาว 1 หยิบมือ นำมาซอยเล็กๆ
• พริกไทยสด 2 พวง
• ข้าวโพดอ่อน 4-5 หัว นำมาผ่าให้พอดีคำ
• น้ำซุปกระะดูกหมู 2 ถ้วยตวง
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ใบมะกรูด 4 ใบ
• พริกขี้หนูสวย 5-10 เม็ด บุบพอแตก
• ใบกะเพรา  10 ใบ ประมาณ 1 หยิบมือ
• น้ำมันพืช สำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำแกงป่าหมู

1. เริ่มต้นจากการเตรียมพริกแกงป่าก่อน โดยนำ พริกขี้หนูแห้ง พริกเเม็ดใหญ่แห้ง ตระไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระชาย กระเทียม เกลือป่น และ กะปิ โขรกให้ส่วนผสมเข้ากัน แต่ไม่ต้องละเอียดทั้งหมดให้เหลือเนื้อสมุนไพรด้วย
2. จากนั้นตั้งกระทะน้ำมัน ให้ร้อน ใส่ พริกแกงป่าลงไปผัดให้หอม จากนั้นนำเนื้อหมูสามชั้นลงไปผัด เติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย ป้องกันไม่ให้พริงแกงป่าไหม้ เมื่อส่วนผสมสุกได้ที่
3. ใส่ มะเขือเปราะ มะเขือพวง พริกไทยสด ขิง ถั่วฝักยาว และ ข้าวโพดอ่อน ลงไปผััดและเติมน้ำซุปกระดูกลงไป
4. ปรุงรสด้วย น้ำปลา เกลือ
5. จากนั้นใส่ พริกขี้หนูสวน และ ใบมะกรูด ต้มให้หอม เมื่อส่วนผสมและรสชาติได้ที่ ให้ปิดไฟ และ ใส่ใบกระเพราลงไป พร้อมรับประทานได้

เคล็ดลับการทำแกงป่าหมู

• การทำพริกแกงป่า มีส่วนผสม คือ พริกขี้หนูแห้ง พริกเเม็ดใหญ่แห้ง ตระไคร้ ข่า ผิวมะกรูด หอมแดง กระชาย กระเทียม เกลือป่น และ กะปี โขรงแต่ไม่ให้ละเอียดเกินไป
• ผิวมะกรูด ให้เอาผิวมะกรูดอย่างเดียว อย่าให้มีไส้ในขาวๆ เพราะจะทำให้ขม
• การผัดพริกแกงป่า ผัดในกระทะร้อนๆ แต่ระวังพริกแกงป่าไหม้ โดยพริกแกงป่าที่สุกจะส่งกลิ่นหอม
• ผักสด ต่างๆ ที่นำมาทำแกงป่า ให้แช่น้ำเกลือ ก่อน เพื่อให้ไม่ดำ
• ใบมะกรูด ส่วนของใบแกนกลาง จะมีความขม การเตีรยมใบมะกรูด ให้คัดเอาแกงใบออก
• ใบกระเพรา สำหรับนำมาทำอาหาร เมนูแกงป่า นั้น แนะนำให้ใช้ ใบกระเพราแดง เนื่องจาก กระเพราแดงหอม ให้รสชาติที่ดีกว่า กระเพราใบใหญ่

อาหารยอดนิยมสำหรับวันนี้ คือ แกงป่าหมู ขั้นตอนการทำเข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก กลิ่นหอม รสชาติจัดจ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมทำอาหารไทยทั้งมือใหม่ วิธีทำแกงป่า สูตรแกงป่า

สูตรแกงป่า อาหารไทย อาหารพื้นบ้านของภาคกลาง เอกลักษณ์ของแกงป่า คือ รสจัด ด้วยสมุนไพรต่างๆ รสเค็ม จะไม่มีหวาน แกงป่า สามารถใส่วัตถุดิบได้หลาก หลาย แต่ สูตรอาหาร เมนูนี้ เป็น แกงป่าหมู ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคนรักการทำอาหาร เมนูหมู วิธีทําแกงป่า